ครั้งนี้ลูกต้องรู้จักให้

ครั้งนี้ลูกต้องรู้จักให้ หลังจากที่พ่อจากไปสิบกว่าปี ฉันต้องขอร้องแกมบังคับ แม่จึงยอมที่จะมาอยู่ด้วย ปีนี้แม่อายุได้70 ส่วนฉันอายุ40 แม้แม่จะอายุมากแต่ก็แข็งแรงหน้าตาสดใส วันที่ไปรับแม่นั้น แม่เตรียมตัวและเตรียมของต่างๆไว้แล้ว นอกจากกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วยังมีข้าวสารอีกสองกระสอบ ฉันไม่อยากเอาข้าวสารไปด้วย เพราะรถฉันคันเล็กที่เก็บของก็แคบมาก แม่ยืนยันว่าจะต้องเอาไป ฉันเห็นแม่ยืนยันอย่างนี้ ก็งงไปครู่หนึ่ง ฉันรู้แล้วว่าทำไมแต่ต้องเอาข้าวสารไปด้วย ฉันเอื้อมมือไปลูบที่ถุงข้าวสาร ก็เจอถุงแข็งๆที่ใต้ถุงข้าวสารนั้น หากฉันทายไม่ผิด ถุงแข็งๆนั้นก็คือเงินที่แม่จะให้ฉันแน่ๆ การเอาเงินซุกไว้ที่ถุงข้าวสาร เป็นสิ่งที่แม่ทำมานานแล้ว สิบกว่าปีที่แล้ว ตอนที่ฉันกำลังแต่งงานใหม่ๆ เช่าห้องเล็กๆอยู่ เป็นช่วงที่การเงินขัดสนที่สุด สิ่งที่ฉันอยากได้ในตอนนั้นก็คือตู้เสื้อผ้า (ก็ฉันเป็นผู้หญิงนิ!) หน้าหนาวในปีนั้น แม่ส่งข้าวสารมาครึ่งกระสอบ เมื่อสามีของฉันเทข้าวสารใส่ถัง ก็เห็นถุงเงินที่ซ่อนอยู่ในข้าวสารนั้น ในซองเงินนั้นมีข้อความแผ่นเล็กๆเป็นลายมือของพ่อ เขียนว่า”ให้ลูกซื้อตู้เสื้อผ้า” เย็นวันนั้นฉันนั่งร้องไห้ หลายปีมานี้ แม่มักจะนำเงินที่เก็บหอมรอมริบซ่อนในถุงข้าวสารส่งมาให้พวกเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่พี่รอง ฉันแต่งงานออกเรือนมาก็หลายปี แม่ยังคงห่วงค่าใช้จ่ายของฉันอยู่ ครั้งนี้ฉันล้วงเอาถุงเงินออกมาคืนให้แม่ แม่บอกกับฉันว่า “อันนี้แม่ให้ถงถงไว้ซื้อของเล่น” ถงถงเป็นหลานยาย แม่คงจะได้ยินถงถงรบเร้าฉันให้ซื้อรถแข่งของเล่นให้ตอนที่พาแกมาเยี่ยมยายครั้งที่แล้ว แต่เพราะมันราคาแพงฉันก็เลยไม่ได้ซื้อให้ลูก ดูสิ! แม่ยังจำได้อยู่เลย ในความทรงจำของฉัน แม่เป็นคนกล้าให้คนหนึ่ง ไม่ว่าจะต่อลูกๆ ญาติๆหรือเพื่อนบ้าน แม่ให้ความรัก ให้สิ่งของ ให้เขายืมเงิน ให้แรงกายในการช่วยงานเพื่อนบ้านอยู่เสมอ ฉันสงสัยอยู่เสมอว่า แม่ผอมๆอย่างนี้ไปเอาแรงมาจากไหนมากมาย แต่เพราะมีบ้านแม่อย่างนี้แหละที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบากับลูกๆเสมอ แม่มาอยู่กับฉันได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว คุณนายบ้านตรงข้ามก็เอาเชอรี่จานใหญ่มาให้ ฉันจำได้ว่า ตอนที่ฉันย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านนี้ใหม่ๆ เราทะเลาะกันเพราะปัญหาการซ่อมแซมบ้านของฉัน จากนั้นมา เราทั้งสองบ้านก็ไม่มองหน้ากันอีกเลย แต่นี่เขาเอาเชอรี่สดๆมาให้ ทำให้ฉันอึ้งไม่รู้จะกล่าวขอบคุณว่าอย่างไร มันตะขิดตะขวงใจอยู่ เธอก็คงจะรู้สึกเหมือนกับฉัน พูดด้วยสีหน้าเขินๆว่า “ขอบคุณสำหรับของหวานนะ ลูกๆของฉันชอบมากเลย” ฉันจึงถึงบางอ้อว่าเชอรี่จานนี้เธอเอามาให้แม่ฉันนั่นเอง แม่รู้ว่าฉันทิฐิสูง จึงไปเคาะบ้านของคนอื่นก่อน เอาของหวานเอาขนมเอาบะจ่างไปให้เขา ในสายตาของแม่ “ญาติไกลไม่สู้เพื่อนบ้าน” แม่เอาความจริงใจช่วยสลายปมของฉันกับคุณนายบ้านตรงข้าม ไม่เพียงแต่บ้านตรงข้าม แม่เที่ยวผูกมิตรไปทั่วกับคนในหมู่บ้าน เพราะสิ่งนี้แม่ก็ทำกับเพื่อนบ้านที่ต่างจังหวัด ของกินเล่นเล็กๆน้อยๆแม้ไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่ของกินอย่างนี้หากินในเมืองไม่ค่อยได้ มันจึงเต็มไปด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ ช่วงนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านดีขึ้นมาก แม่แก่ๆที่ไม่รู้หนังสืออะไรเลย กลับสามารถผูกมิตรกับคนไปทั่ว เพราะการให้ของแม่จึงเอาชนะใจคนมากมาย ฉันเรียนสูงเสียเปล่ากลับเอาชนะใจเพื่อนบ้านไม่ได้เลย แม่มักจะบอกว่า “ลูกให้ในสิ่งที่ดีแก่คนอื่น คนอื่นก็จะให้สิ่งที่ดีแก่ลูก” สำหรับแม่แล้ว แม่คือ “ผู้หญิงชาวบ้าน”คนหนึ่ง พูดอะไรก็มาจากความจริงใจ สำหรับฉันที่เป็นคนสังคมเมือง “ผู้มีการศึกษา” กลับรู้สึกว่าประโยคที่แม่พูดมานั้นเป็นอะไรที่ลึกซึ้งจังเลย แม่มาอยู่กับฉันได้3ปี ปรากฏว่าตรวจพบเป็นมะเร็งปอด ร่างกายของแม่โทรมเร็วมาก จนไม่สามารถยืนได้ วันไหนอากาศดี ฉันจะอุ้มแม่ออกมานั่งเก้าอี้หน้าบ้าน ตากแดดเป็นเพื่อนแม่ แม่เริ่มกินข้าวไม่ค่อยได้ แม้แต่จิบน้ำก็อาเจียนออกมา แต่แม่ไม่เคยแสดงถึงความเจ็บปวดใดๆให้ฉันเห็นเลย ทุกครั้งที่แม่ตื่นนอน ใบหน้าก็จะเปื้อนด้วยรอยยิ้มเสมอ วันนั้น แม่พูดกับฉันว่า “พ่อของลูกมารับแม่แล้วนะ” “แม่คะ หนูไม่ให้แม่ไปนะ” ฉันจับมือแม่แน่น แล้วเปลี่ยนเป็นกอดแม่ไว้ “แต่ครั้งนี้ลูกต้องรู้จักให้” แม่ยิ้มขึ้นมา เอื้อมมือมาจับแก้มฉัน แล้วมือของแม่ก็ตกลงไป “แม่! หนูไม่ให้แม่ไปนะ แม่!” วันส่งศพแม่ ผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่มาร่วมงานเต็มไปหมด ถือว่าเป็นงานใหญ่ทีเดียว ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คงเป็นศพผู้หลักผู้ใหญ่หรือไม่ก็นักธุรกิจแน่ๆ” ทั้งชีวิตของแม่ แม่คือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง แม่ไม่ได้ถูกอบรมหรือเรียนจากโรงเรียนใดๆมาก่อน แต่แม่เป็นคนที่มีใจให้ แม้ว่าแม่จะสอนให้ฉันรู้จักให้ แต่การ “ให้แม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ”อย่างนี้ ยังไงฉันก็ทำใจให้ไม่ได้ ใกล้จะถึงวันแม่แล้ว หากคุณอยู่ไกลแม่ โทรหาแม่ของคุณนะ บอกกับท่านว่าคุณคิดถึงท่าน ตอนนี้ถ้าคุณไม่พูด เกรงว่าวันหน้าจะไม่มีโอกาสพูดอีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น